top of page
Siri Writer

การรักษาด้วยยาต้านไวรัส ART คืออะไร?

Updated: Dec 28, 2023

ในการรักษาเอชไอวีนั้น ปัจจุบันยังไม่มียา หรือวิธีการรักษาใดที่จะกำจัดเชื้อเอชไอวีให้หมดไปได้ แต่มียาที่อาจช่วยชะลอการพัฒนาของโรคคือ ยาต้านเอชไอวี หรือยาต้านรีโทรไวรัส ซึ่งแพทย์จะให้ยาภายใต้การพิจารณาการตอบสนองต่อยาแต่ละชนิด และจะให้ยารักษาทันทีเมื่อปริมาณของ CD4 อยู่ที่ระดับ 350 เซลล์/ลูกบาศก์เมตรหรือต่ำกว่า หากผู้ป่วยได้รับยาตั้งแต่ในระยะเริ่มแรกที่ได้รับเชื้อ ยาจะออกฤทธิ์ควบคุมไม่ให้ไวรัสมีการแพร่กระจายและพัฒนาไปสู่การเจ็บป่วยในขั้นที่รุนแรงอย่างเอดส์

การรักษาด้วยยาต้านไวรัส (ART) คือกระบวนการใช้ยาเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเอชไอวีในร่างกาย
การรักษาด้วยยาต้านไวรัส ART คืออะไร

ความแตกต่างระหว่าง ARV และ ART คืออะไร?

  • ARV (Antiretrovirals) เป็นยารักษาเอชไอวี แบบใช้ยาต้านรีโทรไวรัสตัวเดียว  หรือการรักษาวิธีเดียว

  • ในขณะที่ ART (Antiretroviral Therapy) เป็นยารักษาเอชไอวี  แบบใช้ยาต้านรีโทรไวรัสร่วมกันหลายตัว  หรือวิธีการรักษาแบบผสมผสาน

ส่วนใหญ่แพทย์จะรักษาด้วยการจ่ายยาต้านรีโทรไวรัสร่วมกันหลายตัว โดยใช้ยาต้านรีโทรไวรัสตั้งแต่ 3 ตัวยา เพราะไวรัสเอชไอวีสามารถแบ่งตัวแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว และเชื้อจะดื้อยาได้ง่าย หากได้รับยาเพียงแค่ตัวเดียว หรือแพทย์อาจจ่ายยาสูตรผสม (Fixed Dose Combination) ซึ่งเป็นการรวมยาต้านเอชไอวีหลายชนิดไว้ในยาเม็ดเดียว


อย่างไรก็ตาม การรักษาด้วย ARV และ ART ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่การรักษาด้วยยาต้านไวรัส จะช่วยควบคุมปริมาณไวรัสในร่างกายได้ ทำให้ผู้มีเชื้อเอชไอวีมีสุขภาพแข็งแรงใช้ชีวิตได้ตามปกติ และลดความเสี่ยงในการถ่ายทอดเชื้อได้อีกด้วย


การรักษาด้วยยาต้านไวรัส ART คืออะไร?

ยาต้านไวรัส (Antiretroviral Therapy หรือ ART) คือ การรักษาเอชไอวี ด้วยยาต้านไวรัสหลายชนิดรวมกัน เพื่อควบคุมเชื้อเอชไอวีในร่างกายไม่ให้เพิ่มจำนวน ซึ่งต้องกินให้ครบ ตรงเวลา และไม่สามารถหยุดยาได้เอง การรักษาด้วยยาต้านไวรัสจะได้ผลก็ต่อเมื่อกินยาครบและตรงเวลา และปฏิบัติตนตามคำสั่งของแพทย์

  • ยาต้านไวรัส ART เป็นขั้นตอนการรักษาสำหรับบุคคลที่ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ด้วยการใช้ยาต้านเอชไอวี ในขั้นตอนการรักษานี้ จะใช้กลยุทธ์การใช้ยาแบบผสมผสาน ด้วยการจะใช้ยา 3 ตัวรวมกัน หรือมากกว่า ที่เรียกว่า Highly Active Antiretroviral Therapy (HAART) เป็นการรักษาด้วยยาต้านไวรัสที่มีประสิทธิภาพสูงสุด  เพื่อลดปริมาณเชื้อไวรัสเอชไอวีในกระแสเลือดให้ได้มากที่สุดจนถึงระดับที่ไม่สามารถตรวจวัดได้ และให้คงระดับนั้นไว้ให้ได้นานที่สุด และเพื่อฟื้นฟูและรักษาสภาพการทำงานของระดับภูมิคุ้มกัน(ภูมิคุ้มกันต้านทานโรค) ของผู้ติเ้ชื้อเอชไอวีให้กลับคืนมาปกติ

  • ยาต้านไวรัส ART ยับยั้งการจำลองแบบของเชื้อเอชไอวี ในการรักษาด้วยยาต้านไวรัส การบำบัดแบบผสมผสานจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของยา และลดการพัฒนาของการดื้อยาของไวรัส 

  • ยาต้านไวรัส ART ช่วยลดอัตราการเสียชีวิต และอัตราการเจ็บป่วยของผู้ติดเชื้อเอชไอวี 

  • ยาต้านไวรัส ART สามารถช่วยลดโอกาสในการแพร่เชื้อเอชไอวีไปยังบุคคลอื่นที่มีสุขภาพดี เนื่องจากอัตราการแพร่พันธุ์ของเชื้อเอชไอวีถูกระงับ

แม้เชื้อเอชไอวีจะไม่หมดไปจากร่างกาย แต่ก็ถูกควบคุมจนมีจำนวนน้อยมากจนไม่สามารถทำลายภูมิคุ้มกันของร่างกาย ผู้มีเชื้อเอชไอวีที่รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส (ART) สามารถมีสุขภาพดี และมีชีวิตที่ยืนยาวได้เหมือนคนทั่วไป

Same-Day ART (การรักษาด้วยยาต้านไวรัสในวันเดียว) คือกระบวนการทางการแพทย์ที่ให้ผู้ป่วย HIV ได้รับการตรวจวินิจฉัยและได้รับการสั่งจ่ายยาต้านไวรัสในวันเดียวกันทันทีที่ได้รับการตรวจพบเชื้อไวรัสเอชไอวี
Same-Day ART คืออะไร?

Same-Day ART คืออะไร?

Same-Day ART (Antiretroviral Therapy) คือ  กระบวนการรักษาด้วยยาต้านไวรัส สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ (Newly-diagnosed) และ ผู้ที่เคยทราบผลการติดเชื้อเอชไอวีมาก่อนแล้ว (Re-engaged) ที่ทราบผลเอชไอวี ภายในวันเดียวที่ตรวจพบ  หรือเริ่มรักษาด้วยยาต้านเอชไอวีภายในวันเดียวกับวันที่ตรวจ วินิจฉัยการติดเชื้อเอชไอวี หรือไม่เกิน 72 ชั่วโมงนับตั้งแต่วันที่ทราบผลเลือด ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ที่มีเชื้อเอชไอวีเข้าสู่กระบวนการรักษาเร็วที่สุด เป็นการบริการที่จัดขึ้นให้สำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวี ที่มีความพร้อมในการเริ่มยา และไม่มีโรคติดเชื้อฉวยโอกาส ที่เป็นข้อห้ามในการเริ่มยาต้านเอชไอวี สามารถเข้าถึงการรักษา และกินยาต้านเอชไอวีโดยเร็วที่สุด นับจากที่ทราบว่ามีการติดเชื้อเอชไอวี


ประโยชน์ของ Same-Day ART 

  • การเริ่มยาอย่างรวดเร็วนั้นส่งผลดีต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวี คือ ยาต้านไวรัสสามารถกดเชื้อเอชไอวีในร่างกาย ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคติดเชื้อฉวยโอกาส

  • การทานยาต้านไวรัสอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ตัวยาไปกดระดับไวรัสเอชไอวีให้อยู่ในระดับที่ตรวจหาไม่เจอ และลดโอกาสในการแพร่เชื้อเอชไอวีไปยังผู้อื่น

  • ช่วยให้ผู้ติดเชื้อมีสุขภาพที่แข็งแรง และมีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถทำงานได้ตามปกติและใช้ชีวิตในประจำวันได้เหมือนคนทั่วไป


Same-Day ART สามารถทำได้โดยผู้ติดเชื้อเอชไอวี เข้ารับการตรวจวินิจฉัยการติดเชื้อเอชไอวีที่โรงพยาบาล หรือคลินิกที่ให้บริการ Same-Day ART หากผลการตรวจเป็นบวก แพทย์จะทำการปรึกษา และวางแผนการรักษากับผู้ป่วย จากนั้นผู้ป่วยจะได้รับยาต้านเอชไอวีกลับบ้านไปรับประทานทันที วิธีนี้เป็นแนวทางการรักษาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย สำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวี ช่วยให้ผู้ติดเชื้อสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติและไม่แพร่เชื้อต่อผู้อื่น


หากลืมกินยาต้องทำอย่างไร?

การรักษาด้วยยาต้านไวรัสที่มีประสิทธิภาพต้องกินยาครบ ตรงเวลา และกินต่อเนื่อง ยาต้านไวรัสจะควบคุมไม่ให้เชื้อเอชไอวีในร่างกายขยายตัว การลืมกินยาหรือกินยาไม่ตรงเวลาบ่อยๆทำให้การควบคุมปริมาณไวรัสในร่างกายไม่ต่อเนื่องและเปิดช่องให้เชื้อกลับมาขยายพันธุ์ได้อีกและอาจปรับตัวจนกลายเป็นเชื้อดื้อยา ทำให้ยาต้านสูตรที่กินอยู่ใช้ไม่ได้ผลและต้องเปลี่ยนสูตรยา


หากลืมกินยาตามเวลาให้รีบกินทันทีที่นึกได้ หากลืมข้ามวันก็ยังสามารถกินได้ แต่ต้องกินก่อนกินยาเม็ดต่อไปอย่างน้อย 2 ชั่วโมง หากเพิ่งนึกได้ว่าลืมกินยาและอีกไม่ถึง 2 ชั่วโมงก็ถึงเวลากินยาเม็ดต่อไป ให้ทิ้งยาเม็ดเดิมและรอกินยาเม็ดต่อไป ห้ามนำยาเม็ดเดิมมากินพร้อมกับยาเม็ดต่อไป

ผลข้างเคียงจากยาต้านไวรัสเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นหลังการใช้ยาในการควบคุมเชื้อไวรัสเอชไอวีในร่างกาย
ผลข้างเคียงจากยาต้านไวรัส

ผลข้างเคียงจากยาต้านไวรัส

ผู้มีเชื้อเอชไอวี หลายคนมีความกังวลเรื่องผลข้างเคียงของยาต้านไวรัส ซึ่งในอดีตยาต้านไวรัสรุ่นแรกๆมีผลข้างเคียงค่อนข้างรุนแรง แต่ด้วยเทคโนโลยีการผลิดที่ก้าวหน้ามากขึ้นทำให้ยาต้านไวรัสในปัจจุบันมีผลข้างเคียงน้อยลง ส่วนใหญ่มักเกิดเมื่อเริ่มยาต้านในระยะแรกและจะค่อยๆลดลงจนหายไปเอง ซึ่งอาจใช้หลายวันหรือเป็นเดือนก็ได้ ผลข้างเคียงของยาต้านไวรัสที่พบบ่อย ได้แก่:

  • ภาวะโลหิตจาง

  • ท้องเสีย

  • อาการวิงเวียนศีรษะ

  • เมื่อยล้า

  • ปวดศีรษะ

  • คลื่นไส้และอาเจียน

  • ปวดหรือชาตามส่วนต่างๆ

  • ผื่นคัน

  • การเปลี่ยนแปลงอารมณ์หรือภาวะซึมเศร้า

  • นอนหลับยาก

  • ปากแห้ง

  • น้ำหนักมากขึ้น, น้ำหนักเพิ่มขึ้น, อ้วนขึ้น

  • ความเหนื่อยล้า (อ่อนเพลีย)

  • คอเลสเตอรอลสูงซึ่งอาจนำไปสู่โรคหัวใจได้


ผลข้างเคียงหลายอย่างเกิดขึ้นชั่วคราว หรือคงอยู่เพียงไม่กี่สัปดาห์จนกว่าร่างกายของคุณจะคุ้นเคยกับยา ผลข้างเคียงอื่นๆ เช่น คอเลสเตอรอลสูง อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว หากกินยาต้านแล้วมีอาการข้างเคียง หรือแพ้ยาต้องรีบปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาปรับสูตรยา ห้ามเปลี่ยนยาหรือหยุดยาเอง


ค่าใช้จ่ายในการรักษาด้วยยาต้านไวรัส

การรักษาเอชไอวี เป็นการรักษาแบบต่อเนื่องที่ต้องกินยาไปตลอดชีวิต ฉะนั้นการวางแผนการรักษาจึงต้องคำนึงถึงภาระค่าใช้จ่ายในระยะยาวร่วมด้วย ดังนี้

สถานที่

ค่าใช้จ่าย

โรงพยาบาล หรือคลินิกเอกชน

ประมาณ 4,000 – 5,000 ต่อเดือน

ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาตไทย

ประมาณ  900 – 1,200 ต่อเดือน

บริการตามสิทธิ (สปสช. ประกันสังคม ข้าราชการ)

ไม่มีค่าใช้จ่าย

การรักษาด้วยยาต้านไวรัส ART เป็นหลักการรักษาที่สำคัญในการควบคุม และปรับปรุงสุขภาพผู้ที่ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะการรักษาด้วยยาต้านไวรัส ART เป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมเชื้อเอชไอวี และเพื่อความสำเร็จในการรักษาเอชไอวี ฉะนั้นการปฏิบัติตามคำแนะนำ และคำสั่งจากแพทย์ อย่างเคร่งครัด จะทำให้การรักษาด้วยยาต้านไวรัสได้ผลดีทั้งต่อสุขภาพทั้งร่างกาย และจิตใจ รวมถึงสามารถดำเนินชีวิตไปอย่างคนปกติได้


Comments


bottom of page