top of page
Siri Writer

ทำความรู้จักกับ ตุ่ม หรือเนื้องอกกัมม่า ภาวะแทรกซ้อนของโรคซิฟิลิส

Updated: Jul 3, 2024

โรคซิฟิลิส เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มีผลกระทบต่อผู้คนทั่วโลก โรคนี้เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียทรีโพนีมา แพลลิดัม  หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง โรคซิฟิลิสสามารถพัฒนาเข้าสู่ระยะที่สาม ซึ่งมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง หนึ่งในภาวะแทรกซ้อนนี้ คือ ตุ่ม หรือเนื้องอกกัมม่า ซึ่งสามารถปรากฏบนผิวหนังและอวัยวะภายในต่าง ๆ เช่น ตับ หัวใจ และกระดูก การทำความเข้าใจถึงสาเหตุ อาการ และการรักษาของตุ่มกัมม่ามีความสำคัญในการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อร่างกายอย่างถาวร 

ทำความรู้จักกับตุ่มหรือเนื้องอกกัมม่า ภาวะแทรกซ้อนของโรคซิฟิลิสที่ส่งผลกระทบต่ออวัยวะต่าง ๆ
ทำความรู้จักกับ ตุ่ม หรือเนื้องอกกัมม่า ภาวะแทรกซ้อนของโรคซิฟิลิส

ตุ่ม หรือเนื้องอกกัมม่า คืออะไร?

ตุ่มกัมม่า (Gumma) หรือเนื้องอกกัมม่า เป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคซิฟิลิส (Syphilis) ในระยะที่สามของโรค เป็นลักษณะเนื้อเยื่อที่เกิดขึ้นใต้ผิวหนัง ตับ หัวใจ สมอง และอวัยวะอื่น ๆ ภาวะนี้อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่ออวัยวะเหล่านี้อย่างถาวรหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม


สาเหตุของการเกิดตุ่มกัมม่า

ตุ่มกัมม่าเกิดขึ้นจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ทรีโพนีมา แพลลิดัม (Treponema pallidum) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคซิฟิลิส เมื่อเชื้อแบคทีเรียนี้เข้าสู่ร่างกาย และไม่ได้รับการรักษาในระยะเริ่มต้น มันจะเข้าสู่ระยะที่สามซึ่งเป็นระยะที่ร่างกายเริ่มตอบสนองต่อการติดเชื้อโดยการสร้างตุ่มกัมม่าขึ้น

อาการของตุ่มกัมม่าในโรคซิฟิลิส เช่น ตุ่มแข็งบนผิวหนัง เนื้อตายที่ตับ การอักเสบของหลอดเลือดหัวใจ และความเสียหายที่กระดูก
อาการของตุ่มกัมม่า

อาการของตุ่มกัมม่า

ตุ่มกัมม่าสามารถเกิดขึ้นในหลายบริเวณของร่างกาย เช่น

  • ผิวหนัง ตุ่มกัมม่าบนผิวหนังมักจะเป็นตุ่มที่แข็ง และมีลักษณะนุ่มตรงกลาง

  • ตับ เมื่อเกิดที่ตับ อาจทำให้เกิดแผลหรือเนื้อตายที่ตับ

  • หัวใจ อาจทำให้เกิดการอักเสบที่หลอดเลือดหัวใจ

  • กระดูก ตุ่มกัมม่าที่กระดูกอาจทำให้กระดูกเสียหาย และเกิดการอักเสบ


การวินิจฉัยตุ่มกัมม่า

การวินิจฉัยตุ่มกัมม่ามักจะใช้การตรวจเลือด และการตรวจเพิ่มเติมเพื่อยืนยันการติดเชื้อซิฟิลิส รวมถึงการตรวจชิ้นเนื้อเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อที่ได้รับผลกระทบ


การรักษาตุ่มกัมม่า

การรักษาตุ่มกัมม่าจะต้องใช้ยาปฏิชีวนะประเภทเพนิซิลินเป็นหลัก การรักษาที่เหมาะสมและทันท่วงทีจะช่วยลดความเสียหายที่เกิดขึ้น และป้องกันการลุกลามของโรคไปยังอวัยวะอื่น ๆ


วิธีป้องกันการเกิดตุ่มกัมม่า

  • การตรวจสุขภาพเป็นประจำ ควรตรวจสุขภาพและตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นประจำ

  • การป้องกันการติดเชื้อ การใช้ถุงยางอนามัย และปฏิบัติตามวิธีป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

  • การรักษาโรคซิฟิลิสในระยะเริ่มต้น หากมีการติดเชื้อ ควรได้รับการรักษาทันทีเพื่อป้องกันการเข้าสู่ระยะที่สามของโรค


ตุ่มกัมม่า หรือเนื้องอกกัมม่า  เป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงของโรคซิฟิลิสที่สามารถส่งผลกระทบต่ออวัยวะหลายส่วนของร่างกาย การตระหนักถึงอาการ และการรักษาที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้น การป้องกัน และการตรวจสุขภาพเป็นประจำสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดตุ่มกัมม่าและภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ของโรคซิฟิลิส

Comments


bottom of page