เสี่ยงติดโรคร้าย จากการทำออรัล เซ็กส์

การร่วมเพศโดยการใช้ปาก หรือ ออรัล เซ็กซ์ ถือเป็นวิธีการมีเพศสัมพันธ์ ที่ช่วยกระตุ้นอารมณ์ให้คู่รักไปถึงจุดสุดยอดได้โดยไม่ต้องสอดใส่ อย่างหนึ่ง ที่ทำให้คู่รักรู้สึกเพลิดเพลิน หากทั้งสองฝ่ายยินยอมพร้อมใจ แต่ในบางครั้งการทำออรัล เซ็กส์ อาจนำมาซึ่งโรคร้ายต่าง ๆ ได้ เช่น โรคติดเชื้อเอชพีวี โรคซิฟิลิส โรคเริม โรคหนองใน หรือแม้กระทั่งติดเชื้อเอชไอวี ดังนั้น ก่อนจะทำออรัล เซ็กส์ ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลรักษาความสะอาด และความปลอดภัยของสุขภาพทางเพศ รวมถึงลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์

เสี่ยงติดโรคร้าย จากการทำออรัล เซ็กส์

ออรัล เซ็กส์ คืออะไร?

การมีเพศสัมพันธ์ทางปาก หรือ ออรัล เซ็กส์ (Oral Sex)  คือ การใช้ช่องปาก ริมฝีปาก หรือลิ้น ในการกระตุ้นบริเวณอวัยวะเพศชาย อวัยวะเพศหญิง ทวารหนัก หรือส่วนที่อยู่ใกล้เคียงกับบริเวณดังกล่าว เพื่อให้คู่นอนอีกฝ่ายเกิดอารมณ์ทางเพศ ซึ่งทำได้ทั้งคู่รักเพศเดียวกัน และคู่รักต่างเพศ การทำออรัล เซ็กส์นั้น เป็นสิ่งที่ทั้งผู้ชาย และผู้หญิงต่างปรารถนาเป็นอย่างมาก บางคู่สามารถถึงจุดสุดยอดได้จากการทำออรัล เซ็กส์ อย่างถูกวิธีโดยไม่ต้องสอดใส่อวัยวะเพศเข้าไปในช่องคลอด

ข้อดีของการทำออรัล เซ็กส์

นอกจากจะไม่ทำให้ท้อง ยังสามารถทำให้ทั้งฝ่ายหญิง และฝ่ายชายพอใจในการมีเพศสัมพันธ์มากขึ้น และมีคนกลุ่มไม่น้อยที่ชอบการทำออรัล เซ็กส์ มากกว่าการมีเพศสัมพันธ์จริงๆ อีกด้วย การทำออรัล เซ็กส์ มีข้อดีต่อสุขภาพมากมาย มีดังนี้

• ช่วยให้คุณนอนหลับได้ดีขึ้น การทำออรัล เซ็กส์ด้วยการกินน้ำเชื้อ หรือน้ำอสุจิของผู้ชาย ซึ่งน้ำอสุจิ ประกอบด้วย สารที่เรียกว่า เมลาโทนิน ซึ่งเป็นสารเคมีที่กระตุ้นการนอนหลับ และการผ่อนคลาย แม้ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ แต่ก็จะเข้าสู่กระแสเลือด และช่วยให้คุณนอนหลับได้ดีขึ้นกว่าปกติ

• ต่อต้านริ้วรอย หรือชะลอวัย น้ำ อสุจิ มีสารเคมีที่เรียกว่า สเปิร์มดีน (spermidine) ซึ่งทำให้กระบวนการชราช้าลง ช่วยให้มีผิวพรรณดี เปล่งปลั่งได้เหมือนกับการใช้ครีมบำรุงผิว แต่อย่าใช้ทาบนใบหน้า เพียงแค่กินน้ำ อสุจิ โดยการวิจัยระบุว่ามันจะช่วยได้ดีกว่าทาครีมต่อต้านริ้วรอย หรือชะลอวัย อื่นๆ 

• ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งเต้านม โรคมะเร็งเต้านมโดยทั่วไป มักจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงในช่วงอายุ 40 ปี โดนการทำออรัล เซ็กส์ อย่างน้อย 2 ครั้ง/สัปดาห์ จะช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านมในอนาคตได้ เพราะน้ำอสุจิมีสารเคมีที่ป้องกันการเกิดมะเร็งประเภทนี้ได้

• ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก สำหรับผู้ชายที่ชอบการทำออรัล เซ็กส์ ถือว่าช่วยเรื่องนี้ได้เป็นอย่างมาก เพราะเมื่อผู้ชายมีการหลั่งน้ำอสุจิออกมาบ่อยๆ  ทำให้โอกาสที่จะเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากก็มีน้อยลงตามไปด้วย

• ช่วยเพิ่มความจำ หรือปรับปรุงความจำ สำหรับคนที่มีอาการหลงๆลืมๆ หรือสูญเสียความทรงจำอย่างต่อเนื่อง ออรัล เซ็กส์ ช่วยให้มีความจำที่ได้ เพราะน้ำอสุจิ มีสารอาหารที่ช่วยปรับปรุงความจำ หรือช่วยกระตุ้นความจำของเราได้เป็นอย่างดี

ข้อดีของการทำออรัล เซ็กส์

• บรรเทาอาการปวด หรือช่วยระงับความเจ็บปวด น้ำอสุจิ ประกอบด้วยออกซิโตซิน และเอ็นโดรฟิน ที่ทำหน้าที่เป็นยาแก้ปวด ด้วยการช่วยยับยั้ง และบรรเทาอาการเจ็บปวดได้เป็นอย่างดี ดังนั้นหากมีการปวดเมื่อย ปวดหลัง ปวดหัว หรือปวดใดๆ ลองทำออรัลเซ็กส์ ดูเผื่อจะช่วยได้

• บรรเทาความเครียด น้ำอสุจิ ประกอบด้วยออกซิโตซิน และเอสโตรเจน ซึ่งมีหน้าที่เป็นยาต้านอาการซึมเศร้า และสารกระตุ้นอารมณ์ที่ดีที่สุด มีการวิจัยออกมาว่าผู้หญิงกินน้ำอสุจิ จะทำให้มีความกดดันน้อยลง ช่วยให้มีชีวิตชีวา และมีความสุขมากขึ้น  

• ควบคุมความดันโลหิต หรือลดความดันโลหิตได้ น้ำอสุจิ ช่วยลดความดันโลหิตในผู้หญิงได้ เนื่องจากทำให้ร่างกายรู้สึกมีความสบายกาย สบายใจ ผ่อนคลายมากขึ้นกว่าเดิม และยังสามารช่วยลดความเสี่ยงของภาวะครรภ์เป็นพิษ (ภาวะการตั้งครรภ์ที่มีลักษณะเป็นความดันโลหิตสูง) จากการศึกษายังระบุด้วยว่าการมีเพศสัมพันธ์ทางปากทำให้การตั้งครรภ์ของผู้หญิงปลอดภัยมากขึ้น

• ช่วยให้ผู้หญิงที่กำลังตั้งท้องเจ็บไข้ได้ป่วยน้อยลง หากผู้หญิงกำลังตั้งครรภ์อยู่ และก็มีอาการคลื่นไส้อาเจียน การกินน้ำเชื้ออสุจิเข้าไปช่วยได้ เพราะน้ำอสุจิ เป็นตัวช่วยบำรุงอาการเจ็บไข้ได้ป่วยของผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีการวิจัยออกมาว่าการทำแบบนี้จะช่วยให้ผู้หญิงมีระบบการทำงานในร่างกายกลับมาสมดุลอีกครั้ง

• มีวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย น้ำอสุจิ ประกอบด้วยสังกะสี โพแทสเซียม แมกนีเซียม แคลเซียม ฟรุกโตส และกรดอะมิโนหลายชนิด เหล่านี้ล้วนเป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการ

ข้อเสียของการทำออรัล เซ็กส์

การมีเพศสัมพันธ์ทางปาก หรือการทำออรัล เซ็กส์ และการกินน้ำอสุจิของฝ่ายชาย หรือน้ำหล่อลื่นจากฝ่ายหญิง หากไม่ดูแลรักษาความสะอาดทั้งก่อน และหลังทำออรัลเซ็กส์ อาจก่อให้เกิดการติดเชื้อหรือโรคร้ายต่าง ๆ ได้ เช่น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคซิฟิลิส เชื้อเอชไอวี ซึ่งหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีเชื้อ ปากเป็นแผล หรือมีแผลที่อวัยวะเพศก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดโรคได้มากขึ้น ดังนี้ 

• ติดเชื้อเอชไอวี การทำออรัลเซ็กส์จะมีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีน้อยกว่า การมีเซ็กส์ทางทวารหนัก และช่องคลอด แต่ไม่ได้แปลว่าไม่มีโอกาสติด โดยเฉพาะถ้าช่องปากของฝ่ายรุก และอวัยวะเพศของฝ่ายรับมีแผล

• โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อื่นๆ ดังนี้ 

  • หนองในแท้ สามารถติดได้ทั้งฝ่ายรับ และฝ่ายรุก กรณีที่หากอีกฝ่ายมีเชื้อ

  • หนองในเทียม

  • ซิฟิลิส ซิฟิลิสเป็นแผลริมแข็ง เชื้อซิฟิลิสเข้าทางเยื่อบุต่างๆ ได้ ดังนั้นการสัมผัสทางปากกับอวัยวะเพศ ทวารหนัก หัวนม ในคนที่มีแผลริมแข็ง มีเชื้อซิฟิลิส ก็สามารถติดเชื้อซิฟิลิสได้

  • เริม ติดจากการสัมผัสผื่นเริม ดังนั้นจึงติดได้ทั้งฝ่ายรับ และฝ่ายรุก หากอีกฝ่ายมีเชื้อเริม

• ติดเชื้อเอชพีวี ซึ่งทำให้เกิดโรคหูดหงอนไก่ในหลอดลม ทอนซิล และช่องปาก ก่อให้เกิดมะเร็งในช่องปาก ทอนซิลลิ้น และคอได้อีกด้วย  

• โรคไวรัสตับอักเสบเอ ไวรัสที่ว่าถูกปล่อยจำนวนมากออกมากับอุจจาระ ทำให้สามารถติดต่อทางออรัล เซ็กส์ได้ 

• โรคไวรัสตับอักเสบบี โรคนี้อาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการที่รุนแรงได้ อย่างเป็นโรคตับหรือตับเกิดความเสียหายอย่างต่อเนื่อง และบางครั้งอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ด้วย ซึ่งพบได้บ่อยในผู้ที่เคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือผู้ที่ใช้สารเสพติด โดยเชื้อไวรัสตับอักเสบบีอาจถูกพบได้หลายแห่งในร่างกาย อย่างน้ำอสุจิ เลือด น้ำลาย และอุจจาระ แม้จะยังไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน แต่ก็มีแนวโน้มว่าการทำออรัล เซ็กส์ มีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ได้ 

ข้อเสียของการทำออรัล เซ็กส์

• โรคไวรัสตับอักเสบซี เป็นโรคที่อาจทำให้ตับเกิดการอักเสบหรืออาจทำให้ตับเสียหายอย่างร้ายแรงได้ มีช่องทางการแพร่เชื้อเหมือนกับโรคไวรัสตับอักเสบบี และถึงแม้จะยังไม่มีหลักฐานว่าเชื้อไวรัสของโรคชนิดนี้ติดต่อผ่านการทำออรัล เซ็กส์หรือไม่ แต่หากมีเลือดออกบริเวณที่ทำออรัล เซ็กส์ ก็ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะติดโรคไวรัสตับอักเสบซีได้ ไม่ว่าจะเป็นเลือดที่ออกจากฝ่ายที่เป็นผู้ทำออรัล เซ็กส์เอง หรืออีกฝ่ายหนึ่งก็ตาม 

• ติดเชื้อทริโคโมแนส เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่งที่อาจทำให้รู้สึกแสบเมื่อปัสสาวะ มีของเหลวผิดปกติที่อวัยวะเพศหญิงหรืออวัยวะเพศชาย และช่องคลอดแดงหรือมีอาการคัน ซึ่งการติดเชื้อทริโคโมแนสเกิดขึ้นได้ทั้งบริเวณอวัยวะเพศ ปาก หรือลำคอ ดังนั้น การทำออรัล เซ็กส์ กับผู้ที่เป็นโรคนี้จึงอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ปากและลำคอได้ด้วยเช่นกัน

• โรคบิดชิกเกลลา  ติดต่อได้โดยการสัมผัสอุจจาระที่มีเชื้อแบคทีเรียชิกเกลลาอยู่ ดังนั้น การทำออรัล เซ็กส์ บริเวณทวารหนักจึงอาจทำให้ติดโรคนี้ได้ โดยเฉพาะการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายกับชาย ซึ่งโรคนี้จะทำให้ผู้ที่ติดเชื้อมีอาการท้องเสีย ปวดท้อง หรือมีไข้ ในขณะที่บางคนก็อาจไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมา แต่ยังคงมีเชื้ออยู่ในอุจจาระไปอีกประมาณ 2-3 สัปดาห์

• พยาธิ โดยเฉพาะพยาธิเส้นด้ายที่ชอบวางไข่รอบๆ ทวารหนัก ซึ่งอาจกระจายมาที่อวัยวะเพศ อาจทำให้ผู้ทำออรัล เซ็กส์ กลืนกินไข่พยาธิเส้นด้าย ไปเจริญเติบโตแพร่กระจายในลำไส้ใหญ่ และทวารหนักต่อได้ 

• โลน เป็นปรสิตขนาดเล็กที่กินเลือดคนเป็นอาหาร อาศัยอยู่ที่ขนบริเวณอวัยวะเพศ รวมถึงขนที่บริเวณอื่น ๆ อย่างขนรักแร้ ขนหน้าอก หรือขนขา ซึ่งโลนอาจทำให้มีอาการคันอย่างรุนแรงได้ โดยปกติแล้วโลนจะติดต่อผ่านการสัมผัสอวัยวะเพศ ทวารหนัก รวมถึงการทำออรัล เซ็กส์ ด้วย

การเตรียมตัวก่อนทำการออรัล เซ็กส์ 

การมีเพศสัมพันธ์ทางปาก หรือการทำออรัล เซ็กส์ อาจเตรียมตัวเพื่อความสะอาดและสุขอนามัย โดยปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้

• ทำความสะอาดช่องปากให้สะอาด อย่าปล่อยให้มีกลิ่นอาหาร เพราะกลิ่นอาหารที่ไม่พึงประสงค์อาจทำลายบรรยากาศระหว่างการทำกิจกรรมทางเพศ ดังนั้น ควรทำความสะอาดภายในช่องปากให้สะอาดทุกครั้งก่อนเริ่มมีเพศสัมพันธ์ เช่น แปรงฟัน อมน้ำยาบ้วนปาก เคี้ยวหมากฝรั่ง

• ผู้ชายควรโกนหนวดให้เรียบร้อยก่อนทำออรัล เซ็กส์ เพราะหนวดเคราอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังของอีกฝ่ายได้

• กระตุ้นให้ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกตื่นตัว ด้วยการใช้ปากขบเม้มแรง ๆ ที่อวัยวะเพศประมาณ 3-5 ครั้ง 

• หากมีปัญหาช่องปาก เช่น ฟันผุ  มีแผลในปาก เหงือกบวม ควรรักษาให้หายก่อน เพราะอาจจะเพิ่มความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อโรคต่าง ๆ ขณะทำออรัล เซ็กส์ให้อีกฝ่าย

• ใช้ลิ้นอย่างนุ่มนวล อย่ารุนแรงจนเกินไป และรักษาจังหวะไว้เพื่อไม้ให้อีกฝ่ายอารมณ์ค้าง

การทำออรัล เซ็กส์ อย่างไรให้ปลอดภัย ลดเสี่ยงติดโรคร้าย

ทำการออรัล เซ็กส์ อย่างไรให้ปลอดภัย ลดเสี่ยงติดโรคร้าย

การมีเพศสัมพันธ์ทางปาก หรือการทำออรัล เซ็กส์ จำเป็นต้องป้องกัน และมีความระมัดระวังในเรื่องสุขอนามัย ให้มีความปลอดภัย เพื่อลดเสี่ยงติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ดังนี้

• ทั้งคู่ต้องมีความมั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่มีเชื้อโรค หรือไม่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

• สวมถุงยางอนามัยอย่างถูกต้องทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เพราะถุงยางมีคุณสมบัติช่วยป้องกันการสัมผัสกับของเหลว หรือผิวหนังที่ติดเชื้อโดยตรงได้  และควรสวมถุงยางอนามัยที่ไม่ผสมสารหล่อลื่น  ก่อนทำออรัล เซ็กส์ หากแพ้ยางก็ให้ใช้ถุงยางอนามัยที่ทำจากพลาสติกแทน ทั้งนี้หากเป็นบริเวณที่ไม่ใช่อวัยวะเพศชาย สามารถตัดถุงยางบริเวณหัวและท้าย คลี่ออกให้กลายเป็นทรงสี่เหลี่ยม หรือใช้แผ่นยางอนามัย (Rubber Dam or Dental Dam) วางบริเวณที่ต้องการ เช่น อวัยวะเพศหญิง และทวารหนัก ขณะทำออรัล เซ็กส์  อาจเลือกถุงยางแบบมีรสชาติเพื่อสร้างบรรยากาศในการทำ ออรัล เซ็กส์  นอกจากจะเพิ่มสีสันบนเตียงแล้วยังปลอดภัยต่อสุขภาพอีกด้วย แต่ไม่แนะนำถุงยางอนามัยประเภทที่มีปุ่ม หรือหนาม เพราะอาจทำให้เกิดแผลบริเวณปากได้ 

• หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งดัดฟัน หรือมีการ เจาะลิ้น เจาะปาก ต้องระมัดระวังในการทำออรัล เซ็กส์  อย่างมากเพื่อไม่ให้ขดลวด หรือเหล็กเกี่ยวอวัยวะเพศของฝ่ายตรงข้าม หากเกิดบาดแผลอาจทำให้เกิดการติดเชื้อโรคได้

• หากทำออรัล เซ็กส์  จนฝ่ายชายถึงจุดสุดยอด ฝ่ายหญิงอาจกลืนน้ำอสุจิซึ่งไม่ได้ทำให้ติดเชื้อเอดส์ เนื่องจากในกระเพาะอาหารมีกรดที่สามารถฆ่าเชื้อเอชไอวี 

• ควรเลือกทำออรัล เซ็กส์ ในสถานที่ที่ปลอดภัย และเป็นส่วนตัวเพื่อที่จะได้ใช้เวลาในการทำกิจกรรมทางเพศโดยไม่ต้องกังวล และมีความสุขกับการร่วมเพศทางปากนี้ได้อย่างเต็มที่ทั้งสองฝ่าย

• การดูแลสุขภาพช่องปาก แปรงฟันอย่างถูกวิธี และตรวจช่องปากเป็นประจำ เพื่อป้องกันการติดเชื้อในช่องปาก และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และหมั่นตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นประจำ ทั้งตนเอง และคู่นอน เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อโรค หรือหากติดเชื้อจะสามารถรักษาในช่วงต้นได้ทันท่วงที

• พูดคุยกับคู่นอนของตัวเอง และหลีกเลี่ยงออรัล เซ็กส์ หากมีความผิดปกติ เพื่อป้องกันการติดเชื้อโรค หากฝ่ายหนึ่งมีความผิดปกติเกิดขึ้นบริเวณปาก อวัยวะเพศ หรือทวารหนัก  และปาก เช่น เป็นผื่น เป็นแผล มีอาการเจ็บคอ ติดเชื้อในลำคอ เป็นกามโรค อยู่ในช่วงที่มีประจำเดือน หรือเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จะเกิดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อโรคสูง ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่าจะทางปากหรือทางช่องคลอด และพบแพทย์เพื่อได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง

• หลีกเลี่ยงการแปรงฟันก่อนร่วมรัก และการหลั่งในปาก เพราะการแปรงฟันทันทีก่อนการทำออรัล เซ็กส์  อาจเกิดบาดแผลบริเวณริมปาก หรือเหงือกได้ หากแปรงฟันควรเช็กให้มั่นใจก่อนการทำออรัล เซ็กส์ว่าไม่มีบาดแผล พร้อมกับการป้องกัน ด้วยการสวมถุงยางอนามัย หรือแผ่นยางอนามัย นอกจากนี้ควรระมัดระวังเรื่องการหลั่งอสุจิภายในปาก เพราะอาจเสี่ยงติดโรคจากของเหลวที่สัมผัสโดยตรงได้ เช่น โรคเริม 

• ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นประจำ  สำหรับผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ หรือสงสัยว่าตัวเองมีความเสี่ยงในการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ ควรพาตัวเอง และคู่นอนไปตรวจหาการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และควรงดเว้นกิจกรรมทางเพศไว้ก่อน และไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยและความสบายใจ 

ทำการออรัล เซ็กส์ สำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวี

การทำออรัล เซ็กส์ สำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวี 

สำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวี ควรหลีกเลี่ยงการทำออรัล เซ็กส์ ดังนี้

• ความเสี่ยงจะมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าผู้ติดเชื้อเอชไอวี ว่าเป็นผู้กระทำ หรือถูกกระทำ ในการ ทำออรัล เซ็กส์ หากผู้ติดเชื้อเอชไอวีได้รับการออรัลเซ็กส์ ผู้ที่ทำออรัลเซ็กส์ให้ก็อาจมีความเสี่ยงสูงกว่า หากช่องปากมีแผล แต่ในทางกลับกันน้ำลายไม่ได้เป็นพาหะของเชื้อไวรัสเอชไอวี

• ความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวีจะเพิ่มสูงขึ้น หากผู้ติดเชื้อมีปริมาณไวรัสเอชไอวีสูง เพราะปริมาณของไวรัสเอชไอวีที่สูงขึ้น จะเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่เชื้อเอชไอวีได้มากขึ้นตามไปด้วย

• การหลั่งน้ำอสุจิ ขณะที่ทำออรัล เซ็กส์ การหลั่งน้ำอสุจิในปาก จะเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อเอชไอวีออกมาได้

• การมีบาดแผลไม่ว่าจะเป็นที่ปาก ทวารหนัก ช่องคลอด หรือว่าที่อวัยวะเพศ ซึ่งเป็นช่องทางในการแพร่กระจายเชื้อเอชไอวีได้ทั้งสิ้น

• ประจำเดือน เซลล์ที่มีเชื้อเอชไอวีจะหลั่งจากปากมดลูก ในระหว่างที่มีประจำเดือน การสัมผัสกับเลือดประจำเดือนด้วยปาก อาจเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวี

• ท่อปัสสาวะอักเสบ อาการท่อปัสสาวะอักเสบทำให้เกิดความอักเสบ และการระคายเคืองในท่อปัสสาวะ ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสของการแพร่กระจายเชื้อเอชไอวีได้เช่นกัน และโดยเฉพาะผู้ที่มีเชื้อเอชไอวี มีผลการศึกษาว่ามีแนวโน้มที่จะหลั่งไวรัสได้ เมื่อพวกเขามีอาการท่อปัสสาวะอักเสบร่วมด้วย

การทำออรัล เซ็กส์ อาจเสี่ยงติดโรคร้าย ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องระวังอย่างมีสติ และให้ความสำคัญกับการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยด้วยการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น การสวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงติดเชื้อโรคร้าย ในทางที่สามารถควบคุมได้ รวมถึงการมีความรับผิดชอบต่อสุขภาพทั้งของตนเอง และคู่นอน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการลดเสี่ยงต่อการติดโรคร้าย ด้วยการพูดคุยอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น และความผิดปกติทางเพศ หรือควรมีการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นประจำ เพื่อความสัมพันธ์ทางเพศที่ปลอดภัย และมีสุขภาพที่แข็งแรงต่อไป