top of page
Siri Writer

ความเสี่ยงจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หากไม่ได้รับการรักษา

Updated: May 17, 2024

การติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STI) เป็นปัญหาด้านสาธารณสุขทั่วทั้งโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้คนหลายล้านคนต่อปี แม้ว่าโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางชนิดจะแสดงอาการที่เห็นได้ชัดเจน แต่หลายคนไม่ได้รับการวินิจฉัย ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างมากต่อสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีของบุคคลนั้นๆ ซึ่งความเสี่ยงจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หากไม่ได้รับการรักษา หรือไม่ได้รับการวินิจฉัย จะทำให้มีการแพร่กระจายของเชื้อโรคไปยังผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว เนื่องมาจากการขาดความตระหนักรู้นี้ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในวงกว้าง 

คำอธิบายภาพ: ความเสี่ยงจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เมื่อไม่ได้รับการรักษา
ความเสี่ยงจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หากไม่ได้รับการรักษา

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์


หรือที่เรียกกันว่า STI (ย่อมาจาก Sexually Transmitted Infection) หรือ STD (ย่อมาจาก Sexually Transmitted Diseases)  คือ โรคทุกอย่างที่ติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ โดยติดต่อจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ ในที่นี้การมีเพศสัมพันธ์ หมายถึง การจูบ, การสัมผัส หรือถูอวัยวะเพศ, การมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ปาก (การใช้ปากกับอวัยวะเพศ), การร่วมเพศ (องคชาตในช่องคลอด องคชาตในทวารหนัก), การใช้เซ็กซ์ทอย โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีโอกาสติดต่อได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง และถ้าหากติดเชื้อในระหว่างตั้งครรภ์ บางครั้งอาจส่งผลกระทบถึงเด็กทารกในครรภ์โดยเป็นการติดต่อจากแม่สู่ลูกได้ด้วย


การตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 


ถือเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ และรวมไปถึงตรวจก่อนแต่งงาน หรือตรวจก่อนการตั้งครรภ์ เพื่อลดการแพร่กระจ่ายเชื้อโรคแล้วนั้น ซึ่งในบางโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไม่แสดงอาการ โดยเฉพาะผู้หญิง เช่น เชื้อเอชไอวี ซึ่งกว่าผู้ติดเชื้อจะทราบอาการก็อยู่ในระยะรุนแรงที่ยากต่อการดูแลรักษา อีกทั้งโรคติดต่อบางโรคยังเป็นสาเหตุโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งทวารหนัก เกิดจากการติดเชื้อ HPV บางสายพันธ์ และมะเร็ง ตับ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี และเชื้อไวรัสตับอักเสบซี


ดังนั้นเมื่อมีความเสี่ยง ต่อการติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์ อาจมีอาการแสดงบางอย่าง เช่น เจ็บปวดอวัยวะเพศ คัน มีผื่น ตุ่ม แผล บริเวณอวัยวะเพศ เป็นฝี มีน้ำหนองไหล และในกรณีผู้หญิงหากมีตกขาวสีเหลือง ตกขาวมีกลิ่นเหม็น ก็ควรงดการมีเพศสัมพันธ์เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ และควรรีบไปพบแพทย์

คำอธิบายภาพ :ติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์และไม่ได้รับการรักษา
ติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แล้วไม่ได้ทำการรักษา

ติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แล้วไม่ได้ทำการรักษา


โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที หรืออย่างถูกต้อง จะทำให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรงต่อร่างกาย ดังนี้


การแพร่กระจายเชื้อโรคไปยังผู้อื่น

การไม่รับการรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อาจทำให้เกิดการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นได้  เพราะผู้ติดเชื้ออาจไม่มีอาการใดๆ ที่ทำให้เขาหรือเธอรู้ตัว ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการกระจายของโรคอย่างกว้างขวางในสังคม แม้ว่าคุณจะใช้ถุงยางอนามัยและมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ความเสี่ยงของการแพร่เชื้อยังคงมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น ไวรัสฮิวแมนแพปพิลโลมา (HPV) ซึ่งถุงยางอนามัยให้การป้องกันเพียงบางส่วนเท่านั้น และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางโรคจะไม่สามารถรักษาให้หายได้ เช่น HPV, HIV, เริมที่อวัยวะเพศ และไวรัสตับอักเสบบี การทราบสถานะของคุณจะช่วยให้คุณได้รับการรักษาที่ต้องการและข้อมูลที่จำเป็นเพื่อป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อโรคไปยังผู้อื่น


ภาวะมีบุตรยาก

หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่รักษาได้ เช่น หนองในเทียมและหนองในสามารถนำไปสู่โรคเกี่ยวกับกระดูกเชิงกรานอักเสบ (PID) ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากในผู้หญิง และภาวะแทรกซ้อนของซิฟิลิส ก็สามารถทำให้เกิดการอุดตันของท่อน้ำอสุจิ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยง ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากในผู้ชาย


อันตรายต่อการตั้งครรภ์

มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จำนวนมากที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ และการตั้งครรภ์โดยรวม การติดเชื้อไม่เพียงแต่อาจทำให้คุณไม่สามารถคลอดบุตรได้ แต่ยังสามารถแพร่เชื้อได้ทั้งก่อน หรือระหว่างการคลอดบุตร เช่น ผู้ตั้งครรภ์ที่เป็นโรคหนองในเทียมที่ไม่ได้รับการรักษา มีความเสี่ยงสูงที่จะแท้งบุตร คลอดก่อนกำหนด และคลอดบุตร โรคหนองในสามารถถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูกได้ในระหว่างการคลอดทางช่องคลอด ทำให้เกิดการติดเชื้อที่ตาอย่างรุนแรง ซิฟิลิสและเริมอาจถึงแก่ชีวิตได้ในทารกแรกเกิด หรือโรคซิฟิลิสแต่กำเนิด


สามารถติดเชื้อเอชไอวีได้ง่าย

การติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคที่เป็นแผล (ซึ่งทำให้เกิดแผลเปิด) เช่น เริม และซิฟิลิส อาจทำให้คุณเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี มากขึ้น แผลเปิดที่เกิดจากไวรัสเหล่านี้ทำให้ไวรัสเอชไอวีเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย สำหรับผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด หรือทวารหนักซึ่งมีแผลภายในมีความเสี่ยงสูงมาก


เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ 

หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพที่รุนแรงได้ เมื่อเวลาผ่านไป ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง ดังนี้

  • โรคหนองใน และโรคหนองในเทียม เกิดภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ, ภาวะมีบุตรยาก

  • เริมที่อวัยวะเพศ  เกิดปัญหากระเพาะปัสสาวะ, เยื่อหุ้มสมองอักเสบ

  • โรคไวรัสตับอักเสบบี  เกิดโรคตับแข็ง, โรคมะเร็งตับ

  • เชื้อเอชไอวี เกิดการติดโรคเชื้อฉวยโอกาส

  • โรคHPV เกิดโรคมะเร็งปากมดลูก, โรคมะเร็งทวารหนัก, โรคมะเร็งอวัยวะเพศชาย

  • โรคซิฟิลิส เกิดตาบอด สูญเสียทักษะการเคลื่อนไหว ภาวะสมองเสื่อม และความเสียหายต่อหัวใจ สมอง ดวงตา ไต และกระดูก


การติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และไม่ได้รับการรักษา มีความเสี่ยงต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก ซึ่งการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โดยการใช้ถุงยางอย่างสม่ำเสมอ และการตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพื่อวินิจฉัยโรคตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้คุณได้รับการรักษาก่อนที่จะเกิดอาการที่รุนแรง หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมา และลดการแพร่กระจายเชื้อโรคไปยังผู้อื่นอีกด้วย


Comments


bottom of page